ในบรรยากาศสายฝนโปรยปราย การเดินทางขึ้นเหนือดูจะเป็นคำตอบที่ใช่ เสาะหาที่พักบรรยากาศดี ๆ พาคนรักไปดื่มด่ำรับความโรแมนติกท่ามกลางขุนเขา ที่มีหมู่ดอกไม้คอยยอเย้าต้อนรับ ที่นี่ Flora Creek เชียงใหม่
Flora Creek Chiang Mai
จากกฤษดาดอย สวนดอกไม้สุดงดงามที่สร้างความตราตรึงใจในวัยเด็ก สู่ที่พักหรูที่มีอาณาเขตกว้างใหญ่ มีทำเลที่ตั้งอันยอดเยี่ยม โอบล้อมด้วยทิวเขาและลำธาร ในนาม Flora Creek โรงแรมที่มาในคอนเซ็ปต์ Coloured by seasons ที่นำเอาความสวยสดงดงามของเฉดสีตามฤดูกาลจากสวนดอกไม้นานาพรรณ มาใช้เป็นแนวคิดหลักในการสร้างบรรยากาศให้น่าจดจำ
องค์ประกอบภายในนั้นเลือกใช้โทนสีส้มอิฐ เขียว แล้วก็เทา เป็นหลัก งานออกแบบสถาปัตยกรรมนั้นสร้างตามแบบ Barn House หรือโรงนา ที่พรีเซนต์ออกมาในสไตล์ Modern-Localised Boutique Resort ตามแนวคิดใกล้ชิดธรรมชาติและให้ความเป็นส่วนตัวสูง โดยเลือกใช้วัสดุอย่างอิฐ ไม้ ปูน หิน เพื่อให้เกิดภาพชัดในเรื่องความกลมกลืนกับธรรมชาติ
อีกสิ่งที่น่าสนใจคือ Space ที่ลิงค์ภายนอกและภายใน เลือกใช้สีเทาให้ตัดกับไม้จริง การใช้ Skylight เพื่อให้พื้นที่มีความโปร่ง ในส่วนทางเข้าหลัก มีการออกแบบล้อบบี้ตรงทางเดินแบบไล่ระดับ โดยใช้ระแนงโอบล้อมด้วยน้ำและต้นไม้ ทำให้ผู้เข้าพักรู้สึกว่าเป็นส่วนหนึ่งกับธรรมชาติ ยิ่งไปว่านั้นเวลาที่แสงแดดสาดผ่านกระจกเข้ามา ทำให้เกิดเป็นภาพที่สวยงามมาก
โรงแรม Flora Creek ตั้งอยู่ที่อำเภอหางดง ห่างจากท่าอากาศยานเชียงใหม่เพียง 21 กิโลเมตรเท่านั้น ขับรถเพียงครึ่งชั่วโมงก็ได้มาสัมผัสกับมวลหมู่ดอกไม้ตามฤดูกาลแล้ว (ฤดูฝนแบบนี้ก็มีดอกไม้ให้ชม แถมต้นไม้ยังเขียวสุด ๆ ) ส่วนผู้ที่ไม่ได้เข้าพัก เขาก็เปิดให้เข้าชมแวะถ่ายรูปในสวนได้ด้วยนะ
และต่อจากนี้คือเซ็ทรูปในสวนดอกไม้ มีมุมถ่ายรูปเพียบเลยล่ะ รับรองว่าคุณสาว ๆ คุณป้า คุณย่า คุณยายจะต้องปลื้ม เซลฟี่กันไม่หยุด เก็บภาพกันไม่ยั้ง!
นอกเหนือจากดอกไม้แล้ว ภายในก็ยังมีแปลงสวนสวย ๆ ที่ออกแบบได้อย่างน่ารัก เดินกันเพลิน ๆ ระรื่นตาไปกับต้นไม้น้อยใหญ่ โดยยังใช้ชื่อว่าสวนดอกไม้กฤษดาดอย ขนาด 15 ไร่ ให้ผู้มาเยือนได้อิ่มเอมกับความงามของดอกไม้ทุกฤดูกาล โดยถูกแบ่งออกเป็น 3 โซน โซนแรกคือ Sunken สวนสไตล์ยุโรปด้านหน้า มีน้ำพุคอยสร้างความเคลื่อนไหว โซนบริเวณหน้าลานเฟื่องฟ้า (ห้องอาหาร Fueng Fah Bistro) โดดเด่นด้วยน้ำตกน้อย ๆ ที่คอยไหลให้ใจชุ่มฉ่ำ หรือจะเป็นโซนดอกบานชื่นหน้าห้องพัก ก็สวยเก๋ไม่ซ้ำใคร (โซนนี้เข้าได้เฉพาะผู้เข้าพักเท่านั้นนะจ้ะ)
จากในสวนและดอกไม้สวยสด เราจะพาทุกคนไปชมในส่วนของโซนห้องพักกันบ้าง แค่รอบนอกก่อนเข้าห้อง บรรยากาศก็พาให้ใจสั่น เมื่อแสงแดดตกกระทบกับพื้นผิวของตัวอาคาร เป็นภาพที่น่าดึงดูดเป็นอย่างมาก เลยขอจัดมุมพอร์ตเทรทเบา ๆ อีกสักหน่อย
Deluxe Horizon คือประเภทของพักของเรา โดดเด่นและสะดวกสบายด้วยขนาด 63 ตารางเมตร ออกแบบมาอย่างพิถีพิถัน สามารถสัมผัสเส้นขอบฟ้าท่ามกลางบรรยากาศของดอกไม้และสายน้ำ จากระเบียงด้านหลังของห้อง ภายในห้องพักมีห้องน้ำขนาดใหญ่ เหมาะสำหรับคู่รัก มีอ่างอาบน้ำให้แช่ประทินผิวมองวิวสวน พร้อม Bath Bomb 2 กลิ่นให้เราได้เลือกตีฟองตามใจชอบ ทำให้วันธรรมดากลายเป็นวันพักผ่อนได้อย่างสมบูรณ์แบบ
นอกจากห้องพักอันแสนสะดวกสบายแล้ว ภายนอกเราจะได้รับพลังจากธรรมชาติ จากลำธารที่ตัดผ่าน ทำให้เกิดวิวแลนสเคปที่สวยงาม สร้างเป็นมุมถ่ายรูปสุดคูลได้อย่างลงตัว โดยมีทั้งสะพานไม้แสนคลาสสิกและสะพานคอนกรีตเป็นตัวเชื่อมสองบริเวณเข้าด้วยกัน

ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ สิ่งอำนวยความสะดวกของที่นี่นั้นครบครันมาก ทั้งสปา ฟิตเนส และสระว่ายน้ำ ที่ถูกเนรมิตให้อยู่กับธรรมชาติอย่างกลมกลืน ว่ายน้ำไปฟังเสียงลำธารไป เงยหน้ามาเจอร่มไม้ใหญ่เขียวขจีรอบตัว โดยแบ่งเป็นสระเด็กลึก 60 ซม. สระผู้ใหญ่ลึก 120 ซม. เป็นสระระบบเกลือ
จากวิวทิวทัศน์ ห้องพัก และสิ่งอำนวยความสะดวก เราเปลี่ยนมู้ดมาถึงอีกเรื่องสำคัญของการเข้าพัก นั่นก็คือการบริการและอาหารการกิน โดยเราจะพูดถึง Creek Cafe ห้องอาหารหลักของโรงแรม ที่เป็น All Dining สามารถเข้าไปใช้บริการได้ทุกมื้อตามเวลาที่กำหนดคือ
– Breakfast ตั้งแต่ 06.30 – 10.00 น.
– Lunch ตั้งแต่ 10.00 – 17.00 น.
– Dinner ตั้งแต่ 17.00 – 23.00 น.
– Room Service 06.30 – 23.00 น. (ครัว Thai & International)
Creek Cafe เป็นห้องอาหารที่ตกแต่งในสไตล์ทรอปิคอลล้านนา เป็นความผสมผสานความอบอุ่นจากไม้และความแข็งแรงจากเหล็ก สร้างบรรยากาศให้คุณได้ลิ้มลองอาหารเลิศรสทั้งไทยและเทศหลากหลายเมนู ที่พร้อมเสิร์ฟให้ได้อิ่มท้องตลอดทั้งวัน โดยเราได้สัมผัสถึง 4 เซ็ท 4 สไตล์
เซ็ทแรกคืออาหารฟิวชั่นตะวันตก มีหน่อไม้ฝรั่งพันเบคอน และสเต็กเนื้อวากิวเป็นพระเอก เคียงข้างด้วยของหวานอย่างชีสเค้กมะม่วง พร้อมสมู้ทตี้หลากรสชาติให้ได้ลิ้มลอง
เซ็ทที่สอง เป็นขันโตก เสิร์ฟแบบต้นตำรับฉบับภาคเหนือ พร้อมล้างปากด้วยขนมไทยที่จัดมาอย่างสวยงาม เข้าบรรยากาศสุด ๆ
เซ็ทที่สาม เป็นเซ็ทสุดพิเศษกับการปรุงวัตถุดิบหลักอย่างลำไย ผลไม้ประจำถิ่น ที่นำไปปรุงอาหารได้น่าสนใจหลากเมนู ทั้งแกงเผ็ดเป็ดย่างลำไย พล่าปลาแซลม่อนลำไย และซี่โครงหมูย่างราดซอสลำไย ปิดท้ายด้วยขนมหวานอย่างข้าวเหนียวเปียกลำไยเลิศรส บอกเลยว่าฟิน
และเซ็ทที่สี่ กับเมนูอาหารอิตาเลี่ยน ประกอบด้วยพิซซ่า ผักโขมอบชีส สปาเก็ตตี้พริกแห้ง และปิดท้ายด้วยเครื่องดื่มเย็น ๆ และขนมหวานอย่าง Apple Crumble
นอกจากอาหารแล้ว มุมถ่ายรูปบริเวณนั้นก็น่าแชะไปเสียหมด
ตลอด 3 วัน 2 คืน ที่เราได้มาพักผ่อนที่นี่ รู้สึกเหมือนได้รีชาร์จเติมพลังให้ตัวเอง จากการรายล้อมด้วยธรรมชาติ บวกกับสถาปัตยกรรมและสวนดอกไม้อันสวยงาม เป็นอีกหนึ่งที่พักที่เราอยากแนะนำ หากคุณได้มาเที่ยวเชียงใหม่ แล้วเลือกพักที่ Flora Creek ดูสักครั้ง รับรองจะต้องติดใจ
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
Website : http://www.floracreekchiangmai.com
Tel : 052001400 Line : @floracreek
Categories: Eat Sleep Play